ทำอย่างไร เมื่อเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) ไม่จ่าย ไฟสำรอง

ปัญหาอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้งานเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) ต้องเจอคือ เครื่องสำรองไฟฟ้าไม่สำรองไฟให้ยามที่แหล่งจ่ายไฟหลักไม่ทำงาน ทั้งที่เป็นหน้าที่ของเครื่องสำรองไฟฟ้า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้กับเครื่องสำรองไฟฟ้าทุกยี่ห้อและทุกรุ่น โดยมีหลายสาเหตุด้วยกัน

อาการเมื่อเครื่องสำรองไฟฟ้าไม่สำรองไฟ

อาการของเครื่องสำรองไฟฟ้าที่ไม่สำรองไฟคือ เครื่องสำรองไฟฟ้าจะไม่จ่ายไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่อพวงอยู่เมื่อไฟฟ้าหลักดับ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เครื่องสำรองไฟฟ้าจะส่งเสียงร้องเตือนถี่ ๆ และอาจมีข้อความเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ LCD จากนั้นก็จะปิดตัวเองไป หรือเครื่องอาจนิ่งสนิท ไม่ตอบสนองใด ๆ แม้ว่าคุณจะกดสวิตช์เปิดปิดซ้ำ ๆ ก็ตาม

สาเหตุและวิธีแก้เมื่อเครื่องสำรองไฟฟ้าไม่สำรองไฟ

หากเครื่องสำรองไฟฟ้าของคุณไม่ยอมจ่ายกระแสไฟฟ้าสำรองให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เสียบสายต่อไว้กับเครื่องตอนที่ไฟฟ้าหลักดับ อาจเป็นไปได้ว่าเครื่องสำรองไฟฟ้าของคุณมีปัญหาบางอย่างดังต่อไปนี้

เสียบปลั๊กผิด

เครื่องสำรองไฟฟ้าบางรุ่นมีเต้ารับ 2 แบบอยู่ด้านหลัง เต้ารับแบบแรกคือ Backup เป็นเต้ารับที่จ่ายไฟฟ้าสำรองให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียบพ่วงอยู่ เหมาะสำหรับเสียบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพา หรืออุปกรณ์ที่คุณอยากให้ทำงานได้แม้ไฟฟ้าหลักดับก็ตาม

ส่วนเต้ารับอีกแบบคือ Surge Protect คือ เต้ารับที่ช่วยป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียบไว้กับเต้านี้เจอกับไฟกระชากเท่านั้น ไม่มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าสำรองออกมา ดังนั้นจึงนิยมใช้เสียบปลั๊กเครื่องปรินเตอร์มากกว่าจะใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีเมนบอร์ดอย่างเครื่องคอมพิวเตอร์

ดังนั้นคุณควรเสียบพ่วงอุปกรณ์ให้ถูกต้อง เพื่อให้เครื่องสำรองไฟฟ้าสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณได้เมื่อเกิดไฟฟ้าดับกะทันหัน

Overload

Overload คือการที่คุณเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าเข้ากับเครื่องสำรองไฟฟ้ามากไป ซึ่งคำว่ามากไปหมายถึงอัตราการกินไฟฟ้า ไม่ใช่เพียงจำนวนชิ้นของเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น เมื่อโหลดมีมากกว่ากำลังไฟฟฟ้าของเครื่องสำรองไฟฟ้าที่สามารถจะจ่ายได้ เครื่องสำรองไฟฟ้าจะส่งเสียงเตือนยาว ๆ ก่อนปิดตัวเองลงอัตโนมัติ

ดังนั้นหากเครื่องสำรองไฟฟ้าร้องเตือนและมีข้อความแจ้งว่าเกิดการ Overload ขึ้นบนหน้าจอ LCD คุณควรถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกจากเครื่องสำรองไฟฟ้า เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานต่อไปได้ ไม่เกิดการ Overload ขึ้นอีก เพียงเท่านี้เครื่องสำรองไฟฟ้าก็จะกลับมาทำงานได้เป็นปกติ

แบตเตอรี่ไม่มีประจุ

หากว่าเครื่องสำรองไฟฟ้าได้ทำหน้าที่จ่ายไฟฟ้าจนหมดไปก่อนหน้านี้แล้วและคุณยังไม่ได้ชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าไปจนเต็ม เครื่องสำรองไฟฟ้าอาจจ่ายไฟฟ้าให้คุณไม่ได้ เนื่องจากไม่มีประจุไฟฟ้าเหลืออยู่ในแบตเตอรี่หรือประจุที่มีอาจไม่เพียงพอ ทำให้เครื่องสำรองไฟฟ้าไม่สามารถจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าที่พ่วงต่ออยู่ได้

ทางแก้มีทางเดียวคือ ชาร์จแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าให้เต็มเสมอ ที่สำคัญคือคุณควรชาร์จแบตเตอรี่ทันทีที่ถูกใช้งานจนประจุหมด เพราะหากทิ้งไว้นาน ๆ สารเคมีในแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพจนไม่อาจเก็บประจุไฟฟ้าได้อีกต่อไป

แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

หากคุณชาร์จแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าจนประจุเต็มแล้ว ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ Overload ออกแล้ว หรือเสียบปลั๊กที่ด้านหลังเครื่องถูกต้องแล้ว แต่ยังใช้งานไม่ได้ อาจเป็นได้ว่าแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าของคุณเสื่อมสภาพแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้งานเครื่องสำรองไฟฟ้าตัวนี้มานานกว่า 2 ปีซึ่งเป็นอายุโดยประมาณของแบตเตอรี่

หากแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าเสื่อมแล้ว คุณต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม อาการเสื่อมจะเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่นานก็จะไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้อีก จึงควรรีบเปลี่ยนทันทีอย่าทู่ซี้ใช้ต่อ เพื่อให้เครื่องสำรองไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้ตามปกติ สำรองไฟฟ้า ช่วยให้คุณมีเวลาบันทึกงาน ผลิตออกซิเจน หรือกันไม่ให้เมนบอร์ดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พังก่อนเวลาอันควร

คุณสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้ายี่ห้อ Syndome ได้ด้วยตัวเองอย่างง่าย ๆ เพราะเราดีไซน์ฝาเปิดปิดตรงฐานเครื่องให้เปิดปิดได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์พิเศษใด ๆ คุณจึงเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตัวเองได้ภายในเวลาไม่กี่นาที คุณสามารถติดตามข่าวสารเพิ่้มเติมได้ที่ Facebook: Syndome UPS